พญ.ชมพูนุช มานะธรรมสมบัติ
- - แพทยศาสตรบัณฑิต
- - สาขาอายุรศาสตร์ ( Internal Medicine )
- - อนุสาขาโภชนศาสตร์คลินิก ( Clinical Nutrition )
ประวัติการอบรม หลักสูตรการศึกษา และการรับรอง
- ปี 2562 : Case-Based Approach to Common Problems In Medicine
- ปี 2566 : เป็นวิทยากร และเข้าร่วมประชุมวิชาการสัญจร "การพัฒนาศักยภาพ นักกำหนดอาหาร นักโภชนาการ โภชนาการ เขตสุขภาพที่ 3"
ในยุคที่การดูแลสุขภาพไม่ใช่แค่การรักษาเมื่อป่วย แต่คือการป้องกันก่อนเกิดโรค แนวคิดนี้กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในสายงานแพทย์เฉพาะทางที่เรียกว่า “โภชนศาสตร์คลินิก” บทบาทที่ดูเงียบแต่ทรงพลังอย่างยิ่งในการปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะกับภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล เพื่อป้องกัน บำบัด และส่งเสริมการฟื้นตัวของร่างกาย
ในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับ “แพทย์โภชนศาสตร์คลินิก” ผ่านมุมมองของคุณหมอชมพูนุช โรงพยาบาลศรีสวรรค์ ที่จะพาเราเข้าใจว่าทำไมการกินอาหารให้เหมาะสมจึงกลายเป็น “ยา” ที่ดีที่สุดในชีวิตประจำวัน
จากแพทย์ทั่วไป สู่สายทางเลือกที่พลิกชีวิตคนไข้
คุณหมอชมพูนุชเริ่มต้นเหมือนแพทย์ทั่วไปที่ไม่ได้คาดหวังจะมาอยู่ในสายโภชนศาสตร์คลินิก แต่หลังจากพบว่าการปรับอาหารเพียงเล็กน้อยในผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนแปลงผลสุขภาพได้อย่างเห็นผล—โดยไม่ต้องใช้ยา—ความสนใจจึงค่อยๆ ก่อตัว และนำมาสู่การศึกษาต่อในสายโภชนศาสตร์คลินิกอย่างจริงจัง
“ตอนเรียนหมอ ไม่คิดว่าจะมาทางนี้ แต่พอได้เห็นว่าอาหารเปลี่ยนสุขภาพคนไข้ได้ ก็รู้สึกหลงรักแบบไม่รู้ตัว”
โภชนศาสตร์คลินิก คืออะไรกันแน่?
หลายคนอาจยังไม่รู้จักตำแหน่ง “แพทย์โภชนศาสตร์คลินิก” ดีพอ หน้าที่ของแพทย์สายนี้คือการดูแลเรื่องอาหารและโภชนาการอย่างเจาะจงสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ไม่ว่าจะเพื่อป้องกันโรค ช่วยในการรักษา หรือฟื้นฟูภาวะสุขภาพ
โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำหนักเกิน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ การวางแผนโภชนาการที่เหมาะสมสามารถลดการใช้ยา ฟื้นฟูระบบในร่างกาย และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญ
เพราะอะไรคุณหมอเลือกโรงพยาบาลศรีสวรรค์
การทำงานของแพทย์โภชนศาสตร์คลินิกไม่ใช่งานเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทีมหลายฝ่าย ที่โรงพยาบาลศรีสวรรค์ คุณหมอชมพูนุชกล่าวว่า ที่นี่มีทีมแพทย์เฉพาะทาง นักกำหนดอาหาร แผนกกายภาพบำบัด และพยาบาลที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
“เพราะมีทีมที่หลากหลาย เราจึงสามารถวางแผนการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ทำให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”
ประสบการณ์จริงที่ยังจำไม่ลืม
เคสหนึ่งที่คุณหมอประทับใจ คือผู้บริหารโรงเรียนที่มาตรวจสุขภาพ พบว่าน้ำหนักเกินและค่าผลเลือดผิดปกติ ภายหลังการปรับพฤติกรรมร่วมกับนักกำหนดอาหาร คนไข้สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 3-4 กิโลกรัมในเวลาไม่กี่เดือน และผลเลือดก็ดีขึ้นตามลำดับ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้ป่วยบางรายไม่รู้ว่าแม้แต่ “ผลไม้” ก็มีน้ำตาลและอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มได้เช่นกัน
ความท้าทายไม่ใช่ความรู้ แต่คือพฤติกรรม
คุณหมอเล่าว่าหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดของงานนี้คือ ไม่ใช่ว่าคนไข้ไม่รู้ แต่คือ “รู้แล้วไม่ทำ” เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมต้องใช้แรงจูงใจและการปรับมายเซ็ต คุณหมอจึงให้ความสำคัญกับการเข้าใจจุดเปลี่ยนของแต่ละคน และค่อยๆ พาไปถึงจุดที่เขาพร้อมจะเปลี่ยนแปลง
เริ่มต้นดูแลตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด
คุณหมอแนะนำว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้ป่วยก่อนแล้วค่อยดูแลตัวเอง สุขภาพดีสามารถเริ่มได้จากกิจวัตรเล็กๆ เช่น เพิ่มการเคลื่อนไหว กินผักผลไม้ ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนอย่างมีคุณภาพ และไม่เครียดกับการเปลี่ยนแปลง
“สุขภาพดี ไม่ได้แปลว่าต้องอดทุกอย่าง แต่ต้องเรียนรู้ว่าร่างกายของเราต้องการอะไร”
เมื่ออาหารคือยา และหมอคือผู้นำทางชีวิตใหม่
โภชนศาสตร์คลินิก คือบทบาทใหม่ของแพทย์ในยุคที่ความรู้ด้านโภชนาการก้าวหน้า การกินที่เหมาะสมสามารถเปลี่ยนทั้งระบบในร่างกาย ลดภาระของยา และเพิ่มศักยภาพในการมีชีวิตที่แข็งแรงในระยะยาว
บทบาทของคุณหมอชมพูนุช คือเครื่องยืนยันว่า ในบางครั้ง สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในการรักษา อาจไม่ใช่การจ่ายยา หรือการผ่าตัด แต่คือ “การแนะนำให้คนไข้กินอย่างเข้าใจตัวเอง”
พญ.ชมพูนุช มานะธรรมสมบัติ
แผนก อายุรกรรม