ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

วันที่เผยแพร่: 13 มกราคม 2568

หน้าปกบทความ ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome): สาเหตุ วิธีการป้องกันและการรักษา

ในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีเป็นเวลานาน อาการปวดเมื่อยหรือความเครียดทางร่างกายที่เกิดจากการทำงานในออฟฟิศจึงกลายเป็นปัญหาสำคัญ ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เป็นภาวะที่เกิดจากการทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม ทำซ้ำๆ เป็นเวลานาน ซึ่งสามารถนำไปสู่อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือได้


ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) คืออะไร?

ออฟฟิศซินโดรมคืออาการที่เกิดจากการนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ทำงานในสำนักงานหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นหลัก อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ หลัง และข้อมือ
  • ปวดศีรษะหรือรู้สึกอ่อนเพลีย ปวดตา ตาล้า
  • กล้ามเนื้อตึง หรืออักเสบ บางราย อาจมี อาการปวดคอร้าวลงแขน หรือ ชาแขนหรือมือได้

คำแนะนำ: การทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสมอาจกดทับเส้นประสาท และส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว


สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรมเกิดจากพฤติกรรมการทำงานที่ไม่เหมาะสม โดยมีปัจจัยหลักดังนี้:

1. ท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง

การนั่งหลังค่อมหรือนั่งในท่าที่ทำให้กล้ามเนื้อต้องรับภาระมากเกินไปเป้นเวลานาน ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ และหลัง

2. การใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เป็นเวลานาน

การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่พักผ่อน ทำให้เกิดอาการปวดตา ปวดศีรษะ และความตึงที่กล้ามเนื้อ

3. การขาดการเคลื่อนไหว

การนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อไม่ผ่อนคลาย เกิดความเมื่อยล้าหรืออักเสบได้ง่าย

4. ความเครียดจากการทำงาน

ความเครียดสะสมสามารถทำให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงและปวดเรื้อรัง


โรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มอาการปวดคอ บ่า หลัง

·         กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง หรือเอ็นอักเสบเรื้อรัง

·         โรคกระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท

·         เอ็นข้อมืออักเสบ

·         นิ้วล็อก

·         ปวดรอบดวงตา


อาการของออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรมมีอาการหลากหลาย เช่น:

  • ปวดคอ บ่า และไหล่: เกิดจากกล้ามเนื้อคอและไหล่ที่ตึง
  • ปวดหลัง: เนื่องจากท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง
  • ปวดข้อมือ: ใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ในท่าที่ไม่เหมาะสม ไม่มีที่ว่างเมาส์ หรือที่รองข้อมือ
  • ปวดศีรษะ: มักเกิดจากความเครียดหรือการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
  • ปวดตา: การมองหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป

วิธีการป้องกันออฟฟิศซินโดรม

1. ปรับท่าทางการทำงาน

  • นั่งหลังตรงและปรับเก้าอี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
  • วางหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา ให้สายตาห่างจากหน้าจอคอมประมารอย่างน้อย 30 cm
  • ใช้แป้นพิมพ์และเมาส์ในตำแหน่งที่สบายต่อข้อมือ

2. พักการทำงานทุก 30-60 นาที

  • ลุกขึ้นเดินหรือขยับร่างกาย หรือลุกออกจากโต๊ะทำงานทุก 30 นาที
  • ยืดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลาย

3. ใช้คอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสม

  • ปรับแสงหน้าจอและใช้ฟังก์ชันพักหน้าจอ ให้สายตาห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 30 นาที
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานต่อเนื่องโดยไม่พัก

4. ออกกำลังกายและยืดเหยียด

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ฝึกยืดกล้ามเนื้อเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่น

การรักษาออฟฟิศซินโดรม

1. กายภาพบำบัด

การทำกายภาพบำบัดช่วยลดอาการปวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น การใช้ความร้อนหรือการนวด รวมไปถึง การใช้อุปกรณ์ช่วยลดอาการปวดเฉพาะจุด หรือการฝังเข็ม

2. การรับประทานยา หรือฉีดยาลดอาการปวดตามคำแนะนำแพทย์

ในบางกรณีที่อาการรุนแรง อาจต้องใช้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ

3. การปรับพฤติกรรมการทำงาน

การเปลี่ยนแปลงท่าทางและการเพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันเป็นวิธีการรักษาระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ


สรุป การป้องกันและรักษาออฟฟิศซินโดรมเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมการทำงานและให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ หากคุณเริ่มมีอาการ ควรรีบปรับท่าทางการทำงานหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาให้หายขาด สุขภาพในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม

ข้อมูลโดย
นพ.ธรรมสิทธิ์ วาณิชย์โรจนรัตน์
นพ.ธรรมสิทธิ์ วาณิชย์โรจนรัตน์
แพทย์เฉพาะทางชำนาญการด้าน
สาขาศัลยศาสตร์ข้อเข่าและสะโพกเทียม
แพทย์ประจำแผนก กระดูกและข้อ
นพ.นภัทร์ วีรเสถียรพรกุล
นพ.นภัทร์ วีรเสถียรพรกุล
นพ.กิจพัฒน์ ติรชาญวุฒิ์
นพ.กิจพัฒน์ ติรชาญวุฒิ์
สาขาศัลยศาสตร์กระดูกสันหลัง
นพ.อิชฐญพงศ์ กาญจนคีรีวงศ์
นพ.อิชฐญพงศ์ กาญจนคีรีวงศ์
สาขาศัลยศาสตร์ข้อเท้าและเท้า
นพ.ชวรินทร์ อมเรศ
นพ.ชวรินทร์ อมเรศ
สาขาศัลยศาสตร์ทางออร์โธปิดิกส์
นพ.ธรรมสิทธิ์ วาณิชย์โรจนรัตน์
นพ.ธรรมสิทธิ์ วาณิชย์โรจนรัตน์
สาขาศัลยศาสตร์ข้อเข่าและสะโพกเทียม
ผศ.นพ.ธนพล ชอบเป็นไทย
ผศ.นพ.ธนพล ชอบเป็นไทย
สาขาศัลยศาสตร์เนื้องอกและมะเร็งกระดูก
นพ.พัฒนพงษ์ สุวรรณโกมลกุล
นพ.พัฒนพงษ์ สุวรรณโกมลกุล
สาขาเวชศาสตร์การกีฬา
นพ.ธีรพัชญ์ โกฏิมนัสวนิชย์
นพ.ธีรพัชญ์ โกฏิมนัสวนิชย์
นพ.สุธี เหล่าโกเมนย์
นพ.สุธี เหล่าโกเมนย์
สาขาศัลยศาสตร์กระดูกสันหลัง
พญ.รุ้งแพร จิระรัตนเมธากร
พญ.รุ้งแพร จิระรัตนเมธากร
ออร์โธปิดิกส์
นพ.พุฒิ ตันติโกศล
นพ.พุฒิ ตันติโกศล
นพ.ประจักษ์ จิรธรรมรัตน์
นพ.ประจักษ์ จิรธรรมรัตน์
สาขาศัลยกรรมกระดูกเด็ก
นพ.ปรัชญ์ กำลังสินเสริม
นพ.ปรัชญ์ กำลังสินเสริม
สาขาเวชศาสตร์การกีฬา
นพ.ปิยบุตร กิตติธรรมวงศ์
นพ.ปิยบุตร กิตติธรรมวงศ์
ศัลยกรรมทางมือและจุลยศัลยกรรม
นพ.ภูมินทร์ ศิลาทอง
นพ.ภูมินทร์ ศิลาทอง
ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์การบาดเจ็บทางออร์โธปิดิกส์
พญ.ปัทมาภรณ์ รัชวัฒนะ
พญ.ปัทมาภรณ์ รัชวัฒนะ
สาขาศัลยศาสตร์มือ และจุลศัลยกรรม
นพ.ณัฐ อดุลย์เกษม
นพ.ณัฐ อดุลย์เกษม
สาขาศัลยกรรมกระดูกเด็ก

บทความทางการแพทย์

Title Line
หน้าปกบทความนอนไม่หลับแค่เครียด หรือร่างกายกำลังรวน
ตรวจสุขภาพ
นอนไม่หลับ...แค่เครียด หรือร่างกายกำลังรวน

อาการนอนไม่หลับอาจไม่ใช่แค่ความเครียด แต่อาจเป็นสัญญาณของภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล ลำไส้เสียสมดุล หรือระบบประสาทอักเสบ รู้เท่าทันแนวทางฟื้นฟูการนอนในมุมมองอายุรวัฒน์

สาขากรุงเทพมหานคร ราชพฤกษ์
หน้าปกบทความ 4 ฮอร์โมนสำคัญที่เสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น และส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด
ตรวจสุขภาพ
4 ฮอร์โมนสำคัญที่เสื่อมลงเมื่ออายุมากขึ้น และส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

รู้จัก 4 ฮอร์โมนที่ลดลงตามวัย เช่น เมลาโทนิน เทสโทสเตอโรน เอสโตรเจน และฮอร์โมนการเจริญเติบโต ที่มีผลต่อการนอน ความแข็งแรง และสุขภาพโดยรวม

สาขากรุงเทพมหานคร ราชพฤกษ์
หน้าปกบทความ ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม
ตรวจสุขภาพ
ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เรื่องสำคัญที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

มะเร็งเต้านม เป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงไทยไม่ควรมองข้าม การตรวจคัดกรองเป็นประจำด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรักษาหายได้สูง

สาขากรุงเทพมหานคร ราชพฤกษ์
facebook messenger iconline icon
โรงพยาบาลศรีสวรรค์