ปัจจัยเสี่ยงของวัณโรค
วันที่เผยแพร่: 14 มกราคม 2568
วันที่เผยแพร่: 14 มกราคม 2568
ปัจจัยเสี่ยงของวัณโรค: รู้จักสาเหตุและวิธีป้องกัน
วัณโรค หรือ Tuberculosis (TB) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ทางอากาศเมื่อผู้ป่วยที่ติดเชื้อในปอดไอหรือจาม วัณโรคถือเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก ปัจจัยเสี่ยงของวัณโรค พร้อมวิธีป้องกัน เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและแพร่กระจายของโรค
ปัจจัยเสี่ยงของวัณโรค
1. การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรค
การอยู่ใกล้ชิดหรือใช้ชีวิตร่วมกับผู้ป่วยที่มีวัณโรคในปอดเพิ่มโอกาสการติดเชื้ออย่างมาก เพราะเชื้อสามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยในอากาศที่เกิดจากการไอหรือจาม
2. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ยาเคมีบำบัด มีความเสี่ยงสูงต่อการพัฒนาเป็นวัณโรค
3. สภาพแวดล้อมที่แออัด
การอาศัยหรือทำงานในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เช่น เรือนจำ หอพัก หรือสถานที่ทำงานที่ไม่มีการระบายอากาศที่ดี ทำให้การแพร่กระจายของเชื้อวัณโรคง่ายขึ้น
4. การขาดสารอาหาร
การขาดโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายจึงไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อวัณโรคได้ดี
5. การใช้สารเสพติดและแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์หรือการใช้สารเสพติดเป็นประจำ จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อวัณโรค
6. อายุ
เด็กเล็กและผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่พัฒนาเต็มที่หรือเสื่อมลงตามวัย
7. การอาศัยในพื้นที่ที่มีการระบาดของวัณโรคสูง
ในบางประเทศหรือชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของวัณโรค ความเสี่ยงในการติดเชื้อจะสูงขึ้น
วิธีป้องกันวัณโรค
1. ฉีดวัคซีน BCG
วัคซีน BCG (Bacillus Calmette-Guerin) ช่วยป้องกันวัณโรคในเด็ก โดยเฉพาะวัณโรคชนิดรุนแรง แม้จะไม่สามารถป้องกันวัณโรคในผู้ใหญ่ได้ทั้งหมด แต่วัคซีนนี้ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.ใส่หน้ากากอนามัย
การสวมหน้ากากอนามัยช่วยลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อจากผู้ป่วยไปยังผู้อื่น โดยเฉพาะในพื้นที่แออัด
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ป่วยวัณโรคที่ยังไม่ได้รับการรักษา และหากต้องอยู่ใกล้ควรใช้มาตรการป้องกัน เช่น การใส่หน้ากากและการล้างมือบ่อยๆ
4. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่ดี
การเปิดหน้าต่างหรือใช้ระบบระบายอากาศช่วยลดความเข้มข้นของเชื้อในอากาศ
5. ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ช่วยให้ตรวจพบวัณโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
6. รักษาและติดตามการรักษาผู้ป่วยวัณโรคให้ครบถ้วน
ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และรับประทานยาตามที่กำหนดจนครบ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและลดโอกาสการดื้อยา
7. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีน และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
สัญญาณเตือนวัณโรค
หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์
- ไอเรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์
- มีไข้ต่ำช่วงเย็น
- เหงื่อออกตอนกลางคืน
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อ่อนเพลีย