ตาแห้งบ่อยๆ เกิดจากอะไร ?
วันที่เผยแพร่: 17 ธันวาคม 2568
วันที่เผยแพร่: 17 ธันวาคม 2568

ตาแห้ง (Dry Eye Disease) คืออะไร
ภาวะตาแห้ง (Dry Eye Disease) คือ ภาวะที่ดวงตาไม่สามารถสร้างน้ำตาได้เพียงพอ หรือมีน้ำตาที่มีคุณภาพไม่เหมาะสม
ทำให้ผิวดวงตาขาดความชุ่มชื้น เกิดการระคายเคือง แสบตา เคืองตา และอาจส่งผลต่อการมองเห็นในชีวิตประจำวัน
ภาวะตาแห้งถือเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะน้ำตาสำคัญต่อดวงตาอย่างไร
น้ำตาไม่ได้มีหน้าที่เพียงทำให้ดวงตาชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังประกอบด้วย 3 ชั้นสำคัญ ได้แก่
- ชั้นไขมัน (Lipid Layer) ช่วยลดการระเหยของน้ำตา
- ชั้นน้ำ (Aqueous Layer) ให้ความชุ่มชื้นและหล่อเลี้ยงผิวตา
- ชั้นเมือก (Mucin Layer) ช่วยให้น้ำตาเกาะติดผิวตาได้ดี
เมื่อชั้นใดชั้นหนึ่งทำงานผิดปกติ จะทำให้เกิดภาวะตาแห้งได้ผู้ที่ใช้สายตากับหน้าจอเป็นเวลานาน หรือผู้สูงอายุ
หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดการอักเสบของผิวตา และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
สาเหตุของ “ตาแห้ง” ที่พบบ่อย
- ใช้หน้าจอเป็นเวลานาน กระพริบตาน้อยลง การจ้องหน้าจอมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนาน ๆ
ทำให้อัตราการกระพริบตาลดลงมากกว่า 50% ส่งผลให้น้ำตาระเหยเร็วและเกิดอาการตาแห้ง
- อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ต่อมน้ำตาจะผลิตน้ำตาได้น้อยลง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้ตั้งครรภ์ หรือผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด
- การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดการเสียดสีและเร่งการระเหยของน้ำตา ส่งผลให้รู้สึกแสบตาและไม่สบายตา
- สภาพแวดล้อมที่แห้ง เช่น ห้องปรับอากาศ ลมแรง ควัน ฝุ่น หรือมลภาวะ ทำให้ความชื้นรอบดวงตาลดลง
- โรคประจำตัวบางชนิด เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Sjögren’s syndrome) และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาคลายกังวล และยาความดันโลหิตบางชนิด ซึ่งอาจทำให้การหลั่งน้ำตาลดลง
อาการที่บ่งบอกว่าอาจเป็น “ตาแห้ง”
- แสบตา เคืองตา ระคายเคืองตา
- รู้สึกเหมือนมีฝุ่น ผง หรือทรายอยู่ในตา
- ตาแดง แสบตาหลังใช้สายตานาน
- มองเห็นไม่ชัด เป็น ๆ หาย ๆ โดยมักดีขึ้นหลังจากกระพริบตา
- น้ำตาไหลมากผิดปกติ (เป็นกลไกชดเชยของดวงตา)
- ใส่คอนแทคเลนส์แล้วรู้สึกไม่สบายตา
ภาวะแทรกซ้อนหากปล่อยตาแห้งไว้โดยไม่รักษา
หากไม่ดูแลหรือรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่
- การอักเสบของผิวกระจกตา
- แผลถลอกที่กระจกตา
- การติดเชื้อที่ดวงตา
- การมองเห็นลดลงในระยะยาว
ควรพบจักษุแพทย์เมื่อไร
ควรเข้ารับการตรวจจากจักษุแพทย์ หากมีอาการดังต่อไปนี้
- อาการตาแห้งเป็นต่อเนื่องนานเกิน 1–2 สัปดาห์
- ตาแดงร่วมกับอาการปวดตา หรือการมองเห็นเปลี่ยนแปลง
- มีอาการตาบ่อย ระคายเคืองตารุนแรง
- ใส่คอนแทคเลนส์แล้วเกิดอาการเจ็บหรือแสบตา
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ หรือโรคภูมิคุ้มกัน
การวินิจฉัยภาวะตาแห้ง
จักษุแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจดวงตา และอาจใช้การตรวจเฉพาะทาง เช่น การวัดปริมาณน้ำตา
การประเมินคุณภาพฟิล์มน้ำตา เพื่อหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมปรึกษาจักษุแพทย์ โรงพยาบาลศรีสวรรค์ นครสวรรค์
หากมีอาการตาแห้งหรือความผิดปกติทางสายตา สามารถเข้ารับคำปรึกษา ตรวจวินิจฉัย
และวางแผนการรักษาโดยจักษุแพทย์ โทร. 1254 กด 1








