โรคไข้เลือดออก:โรคร้ายที่อาจอยู่รอบตัวคุณ
การเข้าชม: 3 ครั้ง
วันที่เผยแพร่: 31 มกราคม 2568
การเข้าชม: 3 ครั้ง
วันที่เผยแพร่: 31 มกราคม 2568
ไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ในพื้นที่เขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ยังไม่มียารักษาที่จำเพาะต่อโรค โรคนี้มีทั้งแบบไม่รุนแรงและรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้
อาการของไข้เลือดออก: สัญญาณที่ต้องระวัง
- ระยะแรกอาการของไข้เลือดออกมักเริ่มด้วยไข้สูงลอย (38-40 องศาเซลเซียส) ติดต่อกัน 2-7 วัน ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
- ในระยะที่สองเป็นระยะที่ไข้ลง มีเกล็ดเลือดต่ำ ระยะนี้เป็นระยะที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น เลือดออกตามไรฟัน ตับอักเสบ ไตผิดปกติ บวมน้ำ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดอย่างภาวะช็อก(Dengue shock syndrome) ระยะที่สองนี้จึงเรียกว่า “ระยะวิกฤติ” โอกาาสเกิดภาวะรุนแรงในระยะนี้จะเพิ่มขึ้นหากเป็นการติดเชื้อครั้งที่ 2 ขึ้นไป ระยะนี้มีช่วงเวลาอยู่ 48-72 ชั่วโมง
- ระยะฟื้นตัว คือช่วงที่พ้นจากระยะวิกฤติ จะเริ่มมีความอยากอาหาร อาการบวมน้ำลดลง ร่างกายค่อยๆฟื้นฟู อาเกิดผื่นแดงคนในระยะนี้ได้
ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของไข้เลือดออก: เมื่อไข้เลือดออกไม่ใช่แค่ไข้
ในบางกรณี โรคไข้เลือดออกอาจรุนแรงขึ้นและนำไปสู่ ภาวะไข้เลือดออกชนิดรุนแรง (Severe Dengue) ซึ่งอาจทำให้เกิด:
- ภาวะช็อก (Dengue Shock Syndrome - DSS)
- ภาวะอวัยวะล้มเหลว เช่น ตับ ไต หัวใจ
- เลือดออกภายในร่างกายที่รุนแรง
ภาวะเหล่านี้ทำให้ความดันโลหิตต่ำลงอย่างรวดเร็ว อวัยวะล้มเหลว และเสียชีวิตได้ การเฝ้าระวังอาการและเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
การป้องกันไข้เลือดออก: เริ่มต้นที่ตัวเรา
การป้องกันไข้เลือดออกเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น ภาชนะที่มีน้ำขัง ใช้ยาทากันยุง สวมเสื้อผ้ามิดชิด และติดมุ้งลวดในบ้าน นอกจากนี้ การป้องกันด้วยวัคซีนก็เป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะวัคซีนชนิดใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก: ทางเลือกเพื่อความปลอดภัย
วัคซีนไข้เลือดออก หรือ วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเดงกี เป็นวัคซีนชนิดเชื้ออ่อนแรง สายพันธุ์ DEN-1, 2, 3 และ 4 (ทุกสายพันธุ์ที่ได้รับการยืนยันในปัจจุบัน) ป้องกันการติดเชื้อประมาณ 80% และลดโอกาสต้องนอนโรงพยาบาลจากการติดเชื้อประมาณ 90% สามารถฉีดในผู้ที่อายุ 4-60 ปี ฉีด 2 ครั้งห่างกัน 3 เดือน หลังฉีดอาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คล้ายเป็นไข้ หลังฉัดแนะนำให้พักผ่อน งดการออกกำลังกาย เลี่ยงแอลกอฮอล์ และการเดินทาง ไข้เลือดออกอาจดูน่ากลัว แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยความรู้และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง เริ่มต้นจากกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ป้องกันตัวเองจากการถูกกัด และวัคซีนก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยจากโรคนี้
Q1: ฉีดวัคซีนแล้วจะแพ้มั้ย?คำตอบ: การแพ้วัคซีน เป็นความเสี่ยงรายบุคคลที่เกิดการแพ้ต่อสารประกอบในวัคซีน เมื่อฉีดแล้วพบการการผิดปกติแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ทันที และหากพบว่าแพ้วัคซีนในครั้งแรก ก็เป็นข้อห้ามในการฉีดในอนาคต อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยกว่าแต่ไม่ไช่อาการแพ้ เป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายต่อวัคซีน เช่น อาการไข้และปวดกล้ามเนื้อ พบได้ประมาณ 10% และอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเองใน 2-3 วัน
Q2: มีโรคประจำตัวฉีดได้หรือไม่?คำตอบ:
- วัคซีนไข้เลือดออก สามารถฉีดได้ ในผู้ที่อายุ 4-60 ปี
- วัคซีนไข้เลือดออก ห้ามฉีด ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่กำลังเจ็บป่วยรุนแรง มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ที่รับยากดภูมิคุมกัน
Q3:เคยป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้ว จำเป็นต้องฉีดวันซีนอยู่หรือไม่?
คำตอบ: ยังจำเป็น ข้อมูลในปัจจุบันพบว่าสายพันธุ์ของไวรัสเดงกีมี 4 สายพันธุ์ การติดเชื้อไม่สามารถเกิดภูมิคุ้มกันได้ทั้งหมด และยังพบการการติดเชื้อซ้ำทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน ดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงมีประโยชน์ทั้งผู้ที่เคยติดเชื้อและยังไม่เคยติดเชื้อ และการไม่ติดเชื้อเลยตั้งแต่ครั้งแรกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดผู้ป่วยไข้เลือดออก แนะนำให้รอ 6 เดือนหลังจากการติดเชื้อก่อนรับการฉีดวัคซีน
หมายเหตุ: ข้อมูล 'วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก: ทางเลือกเพื่อความปลอดภัย' เป็นข้อมูลของวัคซีน QDENGA® (Dengue Tetravalent Vaccine [Live, Attenuated])
ที่มา: - https://www.ema.europa.eu/en/medicines/human/EPAR/qdenga
- https://www.takeda.com/newsroom/newsreleases/2022/takedas-qdenga-dengue-tetravalent-vaccine-live-attenuated-approved-for-use-in-european-union/