ทำความรู้จัก heat stroke สัญญาณเตือนและวิธีป้องกันจากภาวะอันตราย
วันที่เผยแพร่: 13 มกราคม 2568
วันที่เผยแพร่: 13 มกราคม 2568
ทำความรู้จัก heat stroke สัญญาณเตือนและวิธีป้องกันจากภาวะอันตราย
ภาวะ Heat stroke หรือที่เรียกว่า โรคลมร้อน เป็นภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายมีความผิดปกติในการระบายความร้อน หรือไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน ส่งผลให้อุณหภูมิแกนกลางภายในร่างกายสูงขึ้น (core temperature) และมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท (central nervous system abnormalities) เช่น ภาวะซึม, ชักเกร็ง เป็นต้น ซึ่งหากภาวะฉุกเฉินนี้ไม่ได้รับการรักษาทันทีจะทำให้เกิดการทำงานล้มเหลวของระบบอวัยวะต่างๆ จนทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาต่อมา
โดยภาวะ heat stroke จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- Classical heatstroke พบในผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคประจำตัวมากอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่อากาศร้อนจัดโดยเฉพาะคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น หลบเลี่ยงความร้อน หรือหาน้ำมาดื่มได้เอง
- Exertional heatstroke พบได้บ่อยกว่า พบในนักกีฬาที่ออกกำลังกายอย่างหนักในสภาวะอากาศที่ร้อนจัด เช่นการแข่งขันวิ่งมาราธอน ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงเกิน
อาการที่เป็นสัญญาณที่สำคัญในผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะได้รับความร้อนสูง ได้แก่
- อาการผิดปกติทางระบบประสาท ได้แก่ ภาวะสับสน, หมดสติ, ไม่รู้สึกตัว, ชักเกร็ง
- อุณหภูมิแกนกลางมากกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีผิวที่แห้งและร้อนแต่อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยบางรายอาจพบผิวเปียกจากเหงื่อ และ อุณหภูมิผิวหนังไม่สูงซึ่งแตกต่างกับอุณหภูมิแกนกลางที่สูงมากได้
- ส่วนอาการผิดปกติ ได้แก่ ปวดศีรษะ, หน้ามืด, เมื่อยล้า, ภาวะหัวใจเต้นเร็ว, ความดันตก, หายใจเร็ว, ภาวะร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง, ภาวะกล้ามเนื้อลายสลายตัว, ภาวะไตวาย
อย่างไรก็ตามมีภาวะอื่นซึ่งอาการเริ่มต้นคล้ายกันได้แก่ ภาวะเป็นลมแดด ซึ่งผู้ป่วยอาจมีการหมดสติชั่วคราวหลังจากนั้นฟื้นตัวมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วหลังได้รับการปฐมพยาบาลเนื่องจากอุณหภูมิแกนกลางไม่สูง แตกต่างจากจาก heat stroke ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด
การป้องกันปัจจัยเสี่ยงของ Exertional heatstroke ได้แก่
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัด ควรเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมได้แก่ ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมควรมีช่วงให้ร่างกายปรับตัวโดยเริ่มต้นทีละน้อยเป็นเวลา 10-14 วัน
- จัดให้มีช่วงพักในที่ร่มหรือพื้นที่ที่มีอากาศไม่ร้อน
- ใส่ชุดป้องกันแดดที่เหมาะสม และสามารถระบายความร้อนได้ดี
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- ตรวจคัดกรองโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงของผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ภาวะน้ำหนักเกิน ยาบางประเภท
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นนอกสถานที่
- ตรวจสอบการหายใจ ชีพจร
- ย้ายไปยังที่ร่ม ถอดเสื้อ
- ลดอุณหภูมิกายโดยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดบริเสณหน้าผาก ลำคอ รักแร้ และขาหนีบ ร่วมกับ ใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
- หากผู้ป่วยยังรู้สึกตัวให้ดื่มน้ำ หรือ น้ำเกลือ เพื่อลดภาวะขาดน้ำ
- รีบติดต่อนำตัวส่งโรงพยาบาล