เช็กด่วน รู้ทันเบาหวาน เริ่มต้นจากการสังเกตตัวเอง
วันที่เผยแพร่: 22 ธันวาคม 2568
วันที่เผยแพร่: 22 ธันวาคม 2568

เช็กด่วน รู้ทันเบาหวาน เริ่มต้นจากการสังเกตตัวเอง
เพราะโรคเบาหวาน รู้ก่อน ป้องกันได้ ลดภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบมากในคนไทย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี หลายคนเป็นโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว
เนื่องจากในระยะแรกมักไม่แสดงอาการชัดเจน กว่าจะตรวจพบก็มักเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น โรคหัวใจ
โรคหลอดเลือดสมอง ไตเสื่อม ตาบอด หรือปลายประสาทเสื่อม
ดังนั้น การรู้เท่าทันความเสี่ยง และการตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและควบคุม
โรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพโรคเบาหวานคืออะไร?
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจาก
- ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอ
- หรือร่างกายดื้อต่ออินซูลิน
ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง หากปล่อยไว้นาน จะทำลายหลอดเลือดและอวัยวะสำคัญหลายระบบ
กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ใครควรตรวจคัดกรองเป็นพิเศษ?
หากคุณมีปัจจัยเสี่ยงอย่างน้อย 1 ข้อ ควรตรวจสุขภาพและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ1. อายุ 35 ปีขึ้นไป
เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการเผาผลาญน้ำตาลของร่างกายจะลดลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานมากขึ้น
2. รอบเอวเกินมาตรฐาน หรืออยู่ในภาวะโรคอ้วน
ไขมันสะสมบริเวณช่องท้องเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะดื้อต่ออินซูลิน
- ผู้ชาย รอบเอว > 90 ซม.
- ผู้หญิง รอบเอว > 80 ซม.
3. มีระดับไขมันในเลือดผิดปกติ
เช่น
- ไตรกลีเซอไรด์ > 150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- HDL (ไขมันดี) < 35 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
ภาวะไขมันผิดปกติมักเกิดร่วมกับโรคเบาหวานและโรคหัวใจ
4. ระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) อยู่ระหว่าง 5.7 – 6.4%
ถือเป็น ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน (Prediabetes) หากไม่ปรับพฤติกรรม มีโอกาสพัฒนาเป็นเบาหวานเต็มรูปแบบได้ในอนาคต
5. มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
เช่น พ่อ แม่ พี่น้องสายตรง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงทางพันธุกรรม
6. เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือรับประทานยาลดความดันโลหิต
ความดันโลหิตสูงและเบาหวานมักเกิดร่วมกัน และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
7. มีประวัติเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ผู้หญิงที่เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีโอกาสเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคตสูงกว่าคนทั่วไป
อาการเตือนของโรคเบาหวานที่ไม่ควรมองข้าม
แม้บางรายจะไม่มีอาการ แต่สัญญาณเตือนที่พบบ่อย ได้แก่
- ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- กระหายน้ำ ดื่มน้ำมากผิดปกติ
- หิวบ่อย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย
- ชาปลายมือปลายเท้า ตามัว
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที
การตรวจคัดกรองเบาหวาน สำคัญอย่างไร?
การตรวจคัดกรองช่วยให้
- รู้สถานะสุขภาพของตนเอง
- ตรวจพบภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
- วางแผนการดูแล ปรับพฤติกรรม และรับการรักษาได้อย่างเหมาะสม
- ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว
- เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาว
ดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ลดหวาน มัน เค็ม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- งดสูบบุหรี่ และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง



