5 โรคอันตรายในหน้าร้อนที่ต้องระวัง: ภัยร้ายที่มากับอากาศร้อน
เมื่อถึงหน้าร้อน นอกจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวแล้ว ยังมีโรคที่มักระบาดในช่วงนี้โดยเฉพาะ หลายโรคเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารและการติดเชื้อที่ถ่ายทอดผ่านอาหารและน้ำ การรู้จักอาการสำคัญและเข้าใจวิธีป้องกันจะช่วยให้คุณและครอบครัวปลอดภัยตลอดหน้าร้อนนี้
5 โรคร้ายที่ต้องระวังในหน้าร้อน
1. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea)
อาการสำคัญ:
- ถ่ายเหลวบ่อยกว่า 3 ครั้งต่อวัน
- ปวดท้องบิด มักเป็นๆ หายๆ
- อาจมีไข้ต่ำถึงปานกลาง
- รู้สึกอ่อนเพลีย เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่
- อาการมักเกิดอย่างรวดเร็วและรุนแรง
การป้องกัน:
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ
- ดื่มน้ำสะอาดที่ผ่านการต้มหรือกรองเท่านั้น
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และอุ่นร้อน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่วางไว้นอกตู้เย็นเป็นเวลานาน
- ทำความสะอาดห้องน้ำและห้องครัวอย่างสม่ำเสมอ
2. โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)
อาการสำคัญ:
- คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง
- ปวดท้องเฉียบพลัน มักเป็นบริเวณกลางท้อง
- ท้องเสีย อาจมีมูกหรือเลือดปน
- มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ
- อาการมักเริ่มปรากฏ 1-6 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารปนเปื้อน
การป้องกัน:
- ตรวจสอบวันหมดอายุของอาหารทุกครั้งก่อนซื้อหรือบริโภค
- ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน
- แยกเขียงและอุปกรณ์ในการหั่นอาหารดิบและอาหารสุก
- เก็บอาหารในตู้เย็นทันทีหลังรับประทานเสร็จ ไม่ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชั่วโมง
- เลือกรับประทานอาหารจากร้านที่สะอาด มีมาตรฐาน
3. โรคอหิวาตกโรค (Cholera)
อาการสำคัญ:
- ท้องเสียอย่างรุนแรง อุจจาระเป็นน้ำคล้ายน้ำซาวข้าว ไม่มีกลิ่นเหม็น
- ขาดน้ำอย่างรวดเร็ว ผิวหนังเหี่ยวย่น ตาลึก
- ปวดท้องน้อย คลื่นไส้ อาเจียน
- กระหายน้ำมาก ปัสสาวะน้อยลง
- ในรายที่รุนแรง อาจช็อกและเสียชีวิตภายใน 12-18 ชั่วโมง หากไม่ได้รับการรักษา
การป้องกัน:
- ดื่มและใช้น้ำที่สะอาด ผ่านการต้มหรือกรองเท่านั้น
- ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนปรุงอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ
- ปรุงอาหารให้สุกทั่วถึง โดยเฉพาะอาหารทะเล
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทะเลดิบหรือสุกๆ ดิบๆ
- ทิ้งอุจจาระและอาเจียนของผู้ป่วยอย่างถูกสุขลักษณะ
4. โรคไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A)
อาการสำคัญ:
- มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องบริเวณชายโครงขวา
- ตัวเหลือง ตาเหลือง (อาการดีซ่าน)
- ปัสสาวะสีเข้มคล้ายน้ำชา อุจจาระสีซีดคล้ายดินเหนียว
- อาการอาจคงอยู่นานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
การป้องกัน:
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอตามคำแนะนำของแพทย์
- ล้างมือให้สะอาดหลังใช้ห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหาร
- ดื่มน้ำสะอาดที่ผ่านการต้มหรือกรองแล้วเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ
5. โรคไข้ไทฟอยด์ (Typhoid Fever)
อาการสำคัญ:
- ไข้สูงต่อเนื่อง มักสูงในตอนเย็นและลดลงในตอนเช้า
- ปวดท้องบริเวณท้องน้อยด้านขวา
- อ่อนเพลียมาก ปวดศีรษะ
- อาจมีผื่นแดงเล็กๆ (rose spots) ตามลำตัว
- ท้องเสียในผู้ใหญ่ หรืออาจท้องผูกในเด็ก
การป้องกัน:
- ฉีดวัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์ตามคำแนะนำของแพทย์
- ดื่มน้ำต้มสุกหรือน้ำบรรจุขวดที่ปิดสนิทเท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานผัก ผลไม้ที่ไม่ได้ล้างให้สะอาด
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และยังร้อนอยู่
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ปรุงอาหารล้างมือสะอาดและไม่เป็นพาหะของโรค
หลักการป้องกันโรคหน้าร้อนโดยรวม
- รักษาสุขลักษณะส่วนบุคคล
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด
- อาบน้ำทุกวัน โดยเฉพาะหลังเหงื่อออกมาก
- ใช้ของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
- ระมัดระวังเรื่องอาหารและน้ำดื่ม
- ดื่มน้ำสะอาด จากแหล่งที่ปลอดภัยเท่านั้น
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ
- เลือกร้านอาหารที่สะอาด ได้มาตรฐาน
- รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม
- กำจัดขยะอย่างถูกวิธี
- ทำความสะอาดห้องน้ำบ่อยๆ
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและแมลงนำโรค
เมื่อไรควรพบแพทย์
ควรรีบพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการต่อไปนี้:
- ถ่ายเป็นน้ำหรืออาเจียนรุนแรงจนทำให้ขาดน้ำ
- ไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส
- มีเลือดปนในอุจจาระหรืออาเจียน
- ปวดท้องรุนแรง
- มีอาการของภาวะขาดน้ำ เช่น กระหายน้ำมาก ปัสสาวะน้อย ตาลึก ผิวแห้ง
- อาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน