โรค RSV คืออะไร? อาการ วิธีป้องกัน และการดูแลรักษา
วันที่เผยแพร่: 22 ธันวาคม 2567
วันที่เผยแพร่: 22 ธันวาคม 2567

โรค RSV คืออะไร?
RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคนี้พบมากในฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย
กลุ่มเสี่ยงของโรค RSV
โรค RSV สามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
- เด็กที่คลอดก่อนกำหนด
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
อาการของโรค RSV
อาการของโรค RSV มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่อาการเล็กน้อยจนถึงรุนแรง ได้แก่
อาการเบื้องต้น
- ไอแห้ง
- มีน้ำมูกไหล
- ไข้ต่ำ
- เจ็บคอ
อาการรุนแรง (มักพบในเด็กเล็ก)
- หายใจลำบาก หายใจเร็ว
- หอบเหนื่อย
- ปอดอักเสบ (Pneumonia)
- หลอดลมฝอยอักเสบ (Bronchiolitis)
- ตัวเขียวเนื่องจากขาดออกซิเจน
หากพบอาการรุนแรง ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันที
การวินิจฉัยโรค RSV
แพทย์จะทำการวินิจฉัยโรค RSV โดยพิจารณาจากอาการร่วมกับการตรวจเพิ่มเติม เช่น
- การตรวจสารคัดหลั่งจากโพรงจมูก
- การเอกซเรย์ทรวงอกในกรณีที่สงสัยว่ามีภาวะปอดอักเสบ
การรักษาโรค RSV
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรค RSV โดยเฉพาะ การรักษาส่วนใหญ่เน้นที่การดูแลอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การดูแลที่บ้าน
- ให้เด็กพักผ่อนเพียงพอ
- ดื่มน้ำหรือของเหลวอย่างเพียงพอ
- ใช้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการไข้
การรักษาในโรงพยาบาล (สำหรับอาการรุนแรง)
- ให้ออกซิเจน
- ใช้ยาขยายหลอดลม
- ในบางกรณีอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
วิธีป้องกันโรค RSV
การป้องกันโรค RSV เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
รักษาความสะอาด
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
- ทำความสะอาดของเล่นและอุปกรณ์ที่เด็กใช้ประจำ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย
- หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในที่แออัดหรือที่มีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ
สวมหน้ากากอนามัย
- โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว
ฉีดวัคซีน
- ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนเฉพาะสำหรับ RSV แต่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และวัคซีนปอดอักเสบสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้อนทับได้
ความสำคัญของการป้องกันในครอบครัว
เด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ มีโอกาสติดเชื้อ RSV ได้ง่าย หากมีคนในครอบครัวป่วย ควรแยกพื้นที่การใช้ชีวิต เช่น การนอน การรับประทานอาหาร และหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน
สรุป
โรค RSV เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน การป้องกันด้วยการรักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย และดูแลสุขภาพของเด็กให้แข็งแรง สามารถช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้ หากสงสัยว่าเด็กติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม



























