ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia: BPH) โรคที่ผู้ชายไม่ควรละเลย

วันที่เผยแพร่: 20 มีนาคม 2568

ิbenign-prostatic-hyperplasia

ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia: BPH) โรคที่ผู้ชายไม่ควรละเลย


ต่อมลูกหมากโตคืออะไร?

ต่อมลูกหมากโต หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Benign Prostatic Hyperplasia (BPH) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปี โดยเป็นการเพิ่มขนาดของต่อมลูกหมากที่ไม่ได้เกิดจากมะเร็ง

ต่อมลูกหมากมีหน้าที่สร้างน้ำอสุจิและอยู่รอบๆ ท่อปัสสาวะส่วนต้น เมื่อต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้น จะทำให้เกิดการกดทับท่อปัสสาวะ ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติเกี่ยวกับการปัสสาวะ


สาเหตุของต่อมลูกหมากโต

สาเหตุที่แท้จริงของโรคต่อมลูกหมากโตยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่:

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตามวัย - เมื่ออายุมากขึ้น ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง แต่ฮอร์โมนเอสโตรเจนยังคงอยู่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ต่อมลูกหมาก
  2. พันธุกรรม - หากมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้ด้วย
  3. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอายุ - ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

อาการของต่อมลูกหมากโตที่ควรสังเกต

อาการของโรคต่อมลูกหมากโตมีหลายระดับ ตั้งแต่อาการเล็กน้อยที่ไม่รบกวนคุณภาพชีวิต ไปจนถึงอาการรุนแรงที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ได้แก่:

อาการด้านการกักเก็บปัสสาวะ (Storage symptoms)

  • ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน (ปัสสาวะกลางคืน)
  • ปวดปัสสาวะเร่งด่วน รู้สึกอยากปัสสาวะอย่างกะทันหัน
  • ปัสสาวะแล้วยังรู้สึกไม่สุด มีความรู้สึกต้องการปัสสาวะอีก
  • ปัสสาวะกลั้นไม่อยู่ มีปัสสาวะเล็ดออกมาก่อนถึงห้องน้ำ

อาการด้านการระบายปัสสาวะ (Voiding symptoms)

  • ปัสสาวะลำบาก ต้องออกแรงเบ่งในการปัสสาวะ
  • ปัสสาวะมีแรงดันน้อย ลำปัสสาวะมีแรงดันต่ำ
  • ปัสสาวะเป็นหยดๆ ปัสสาวะไม่เป็นเส้นต่อเนื่อง
  • ปัสสาวะสะดุด ปัสสาวะหยุดกลางคันและเริ่มใหม่
  • ต้องรอนานกว่าปัสสาวะจะออก มีความล่าช้าในการเริ่มปัสสาวะ

อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

  • ปัสสาวะไม่ออก (Urinary retention) ทำให้ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ
  • การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เกิดจากปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะ
  • นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เกิดจากปัสสาวะค้างเป็นเวลานาน
  • ไตวาย ในกรณีรุนแรงที่มีการอุดตันเรื้อรัง

การวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโต

การวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโตประกอบด้วยการตรวจหลายอย่าง ได้แก่:

  1. การซักประวัติ - แพทย์จะสอบถามอาการที่เกิดขึ้น และประเมินความรุนแรงของอาการด้วยแบบสอบถาม IPSS (International Prostate Symptom Score)
  2. การตรวจร่างกาย - รวมถึงการตรวจทางทวารหนัก (Digital Rectal Examination: DRE) เพื่อประเมินขนาดและลักษณะของต่อมลูกหมาก
  3. การตรวจเลือด - เพื่อวัดระดับ PSA (Prostate-Specific Antigen) และการทำงานของไต
  4. การตรวจปัสสาวะ - เพื่อตรวจหาการติดเชื้อหรือเลือดในปัสสาวะ
  5. การวัดอัตราการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry) - เพื่อประเมินความแรงของการปัสสาวะ
  6. การตรวจอัลตร้าซาวด์ - เพื่อวัดขนาดต่อมลูกหมากและปริมาณปัสสาวะที่ค้างในกระเพาะปัสสาวะ
  7. การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) - ในกรณีที่จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติม

การรักษาโรคต่อมลูกหมากโต

การรักษาโรคต่อมลูกหมากโตมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต:

1. การเฝ้าระวังและติดตามอาการ (Watchful waiting)

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการน้อยและไม่รบกวนการดำเนินชีวิต
  • ตรวจติดตามอาการเป็นระยะ เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง

2. การรักษาด้วยยา

  • ยากลุ่ม Alpha-blockers (เช่น Tamsulosin, Alfuzosin) - ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่อยู่รอบต่อมลูกหมาก ทำให้ปัสสาวะได้สะดวกขึ้น
  • ยากลุ่ม 5-alpha reductase inhibitors (เช่น Finasteride, Dutasteride) - ช่วยลดขนาดของต่อมลูกหมาก แต่ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
  • ยากลุ่ม Phosphodiesterase-5 inhibitors (เช่น Tadalafil) - ช่วยบรรเทาอาการของต่อมลูกหมากโตและยังช่วยในเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย
  • ยาสมุนไพร - เช่น Saw palmetto, Pygeum africanum ที่อาจช่วยบรรเทาอาการในบางราย

3. การรักษาด้วยการผ่าตัด

  • TURP (Transurethral Resection of the Prostate) - การผ่าตัดต่อมลูกหมากผ่านท่อปัสสาวะ เป็นวิธีที่ใช้มาตรฐานที่สุด
  • HoLEP (Holmium Laser Enucleation of the Prostate) - การใช้เลเซอร์ในการตัดเนื้อต่อมลูกหมาก
  • PVP (Photoselective Vaporization of the Prostate) - การใช้เลเซอร์ในการระเหยเนื้อต่อมลูกหมาก
  • TUIP (Transurethral Incision of the Prostate) - การกรีดต่อมลูกหมากผ่านท่อปัสสาวะ เหมาะสำหรับต่อมลูกหมากขนาดไม่ใหญ่มาก

4. การรักษาด้วยวิธีใหม่ๆ

  • Prostatic Urethral Lift - การใช้อุปกรณ์ยกต่อมลูกหมากที่กดทับท่อปัสสาวะ
  • TUNA (Transurethral Needle Ablation) - การใช้คลื่นวิทยุในการทำลายเนื้อต่อมลูกหมาก
  • TUMT (Transurethral Microwave Therapy) - การใช้คลื่นไมโครเวฟในการทำลายเนื้อต่อมลูกหมาก

การป้องกันและดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคต่อมลูกหมากโต

แม้ว่าโรคต่อมลูกหมากโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงตามวัย แต่การดูแลตนเองอย่างเหมาะสมสามารถช่วยบรรเทาอาการและชะลอการดำเนินโรคได้:

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ - ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและอาการที่รุนแรง
  2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ - ลดอาหารไขมันสูง เพิ่มผักและผลไม้
  3. ควบคุมน้ำหนัก - น้ำหนักที่มากเกินไปสัมพันธ์กับอาการที่รุนแรงมากขึ้น
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ - เพราะทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  5. ไม่อั้นปัสสาวะ - ควรปัสสาวะเมื่อรู้สึกปวด ไม่ควรกลั้น
  6. รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง - ไม่ควรปรับเปลี่ยนขนาดยาหรือหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  7. ตรวจสุขภาพประจำปี - เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของต่อมลูกหมาก

เมื่อไรควรพบแพทย์?

ควรพบแพทย์ทันที หากพบอาการดังต่อไปนี้:

  • ปัสสาวะไม่ออก - เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบพบแพทย์
  • มีเลือดปนในปัสสาวะ - อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นที่ร้ายแรง
  • มีอาการปวดท้องน้อย - อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
  • มีไข้และหนาวสั่น - อาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ - อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นที่ร้ายแรง

บทสรุป

โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป แม้ว่าจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงหรือเป็นมะเร็ง แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก การตรวจพบอาการตั้งแต่เริ่มแรกและการรักษาที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

ผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปีควรรับการตรวจสุขภาพประจำปี และปรึกษาแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการปัสสาวะ เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ทันท่วงที

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคต่อมลูกหมากโต ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ข้อมูลโดย
นพ.ทรงวุฒิ ประสพสุข
นพ.ทรงวุฒิ ประสพสุข
แพทย์เฉพาะทางชำนาญการด้าน
ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ( Urological Surgery )
แพทย์ประจำแผนก ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ
นพ.พฤกษ์ วงศ์มณีโรจน์
นพ.พฤกษ์ วงศ์มณีโรจน์
ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ( Urological Surgery )
นพ.จิรายุ เฉลิมพงษ์
นพ.จิรายุ เฉลิมพงษ์
ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ( Urological Surgery )
นพ.ทรงวุฒิ ประสพสุข
นพ.ทรงวุฒิ ประสพสุข
ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ( Urological Surgery )
พญ.จารุวรรณ สิริพลังคานนท์
พญ.จารุวรรณ สิริพลังคานนท์
ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ( Urological Surgery )

บทความทางการแพทย์

Title Line
baner-web-07
สมองและระบบประสาท
การผ่าตัดเพื่อบรรเทาการกดทับเส้นประสาทในกระดูกสันหลัง (ลามิเนกโตมี Laminectomy)

การผ่าตัดเพื่อบรรเทาการกดทับเส้นประสาทในกระดูกสันหลัง

สาขานครสวรรค์
black-stool-melena
ทางเดินอาหารและตับ
ถ่ายดำ อาจดูไม่มีภัย แต่อันตรายกว่าที่คิด

คำตอบเกี่ยวกับสาเหตุของอุจาระสีดำ สัญญาณเตือนโรคทางเดินอาหารที่อาจร้ายแรง และคำแนะนำจากแพทย์ว่าควรดูแลอย่างไรเมื่อพบอาการนี้

สาขานครสวรรค์
หน้าปกบทความ ระวัง! แอนแทรกซ์ โรคจากสัตว์สู่คน อันตรายถึงชีวิต
อายุรกรรม
ระวัง! แอนแทรกซ์ โรคจากสัตว์สู่คน อันตรายถึงชีวิต

แอนแทรกซ์ โรคติดเชื้อจากแบคทีเรียรุนแรง จากสัตว์สู่คน อาจติดต่อผ่านผิวหนัง ระบบหายใจ หรือการกินเนื้อดิบ เสี่ยงถึงชีวิตหากไม่รักษาทัน

สาขานครสวรรค์
facebook messenger iconline icon
โรงพยาบาลศรีสวรรค์