กรดไหลย้อน: อาการ การป้องกัน และการรักษา

วันที่เผยแพร่: 20 มีนาคม 2568

gastroesophageal-reflux-disease

กรดไหลย้อน: อาการ การป้องกัน และการรักษา

กรดไหลย้อน หรือโรคกระเพาะอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในยุคที่มีความเร่งรีบและพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หลายคนมักละเลยอาการเริ่มต้น จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อนอย่างละเอียด


อาการของโรคกรดไหลย้อน

โรคกรดไหลย้อนเกิดจากการที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหาร ทำให้เกิดการระคายเคือง อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • แสบร้อนบริเวณหน้าอก (Heartburn) โดยเฉพาะหลังรับประทานอาหาร
  • รู้สึกเปรี้ยวในคอ หรือมีกรดขึ้นมาถึงปาก
  • กลืนอาหารลำบาก หรือรู้สึกเจ็บขณะกลืน
  • เรอบ่อย หรือมีลมในกระเพาะมาก
  • รู้สึกแน่นอึดอัดบริเวณท้อง
  • เสียงแหบหรือระคายเคืองคอ โดยเฉพาะตอนเช้า
  • ไอเรื้อรัง หรือหอบหืดที่แย่ลงในตอนกลางคืน
  • นอนไม่หลับ เนื่องจากอาการรบกวน

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

สาเหตุหลักของโรคกรดไหลย้อนคือการทำงานผิดปกติของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง ปัจจัยเสี่ยงที่พบบ่อย ได้แก่:

  • น้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน
  • การรับประทานอาหารมากเกินไป โดยเฉพาะมื้อดึก
  • อาหารกระตุ้น เช่น อาหารมัน อาหารรสจัด ช็อกโกแลต กาแฟ แอลกอฮอล์
  • การสูบบุหรี่
  • ความเครียด และวิตกกังวล
  • การตั้งครรภ์
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs

การป้องกันกรดไหลย้อน

การป้องกันที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคได้:

  1. ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร - ทานอาหารในปริมาณพอเหมาะ และหลีกเลี่ยงการทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
  2. ลดน้ำหนัก - สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
  3. หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้น - ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง รสเผ็ดจัด เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
  4. นอนในท่าที่เหมาะสม - ยกหัวเตียงให้สูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร
  5. สวมเสื้อผ้าหลวม - หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดบริเวณหน้าท้อง
  6. เลิกสูบบุหรี่ - บุหรี่ส่งผลเสียต่อการทำงานของหูรูดหลอดอาหาร

การรักษากรดไหลย้อน

การรักษามีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ:

การรักษาด้วยยา

  • ยาลดกรด (Antacids) - บรรเทาอาการในระยะสั้น
  • ยายับยั้งการหลั่งกรด (H2 Blockers) - ลดการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร
  • ยากลุ่ม PPIs (Proton Pump Inhibitors - PPIs) - ยับยั้งการผลิตกรดอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับกรณีที่มีอาการรุนแรง

การรักษาด้วยการผ่าตัด

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา อาจพิจารณาการผ่าตัด Fundoplication เพื่อเสริมความแข็งแรงของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง


เมื่อไรควรพบแพทย์?

ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้:

  • อาการแสบร้อนกลางอกเกิดขึ้นมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์
  • อาการไม่ดีขึ้นแม้ใช้ยาลดกรดที่หาซื้อได้ทั่วไป
  • มีอาการกลืนลำบาก
  • น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระสีดำ
ข้อมูลโดย
พญ.ชไมพร กองเกตุใหญ่
พญ.ชไมพร กองเกตุใหญ่
แพทย์เฉพาะทางชำนาญการด้าน
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ( Gastroenterology )
แพทย์ประจำแผนก ทางเดินอาหารและตับ
พญ.ณัฐสุดา เบญจชินชัยกุล
พญ.ณัฐสุดา เบญจชินชัยกุล
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ( Gastroenterology )
นพ.วาทกวี วิมลเฉลา
นพ.วาทกวี วิมลเฉลา
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ( Gastroenterology )
พญ.ปภัสกร นพจรูญศรี
พญ.ปภัสกร นพจรูญศรี
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ( Gastroenterology )
พญ.ชไมพร กองเกตุใหญ่
พญ.ชไมพร กองเกตุใหญ่
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ( Gastroenterology )
นพ.นที ฟักนาค
นพ.นที ฟักนาค
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ( Gastroenterology ) และ การส่องกล้องตรวจทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
นพ.พลัฏฐ์ สถิรวิชย์
นพ.พลัฏฐ์ สถิรวิชย์
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร ( Gastroenterology )
facebook messenger iconline icon
โรงพยาบาลศรีสวรรค์